สรุปงานวิจัย
การส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์กิจกรรมดนตรีตามแนว ออร์ฟ - ชูคเวิร์ค
ผู้วิจัย
วริณธร สิริเตชะ
ความมุ่งหมาย
เพื่อเปรียบเทียบพื้นฐานคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยเมื่อได้รับการจัดประสบการณ์ดนตรีของแนวออร์ฟ-ชูคเวิร์คก่อนและหลังการทดลอง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นเด็กปฐมวัยชาย-หญิงอายุระหว่าง4-5ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลที่2 จำนวน60คนของโรงเรียนศรีดรุณ จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดสำนักงานเขตพื่นที่การศึกษาสมุทรการเขต2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
เด็กปฐมวัยชาย - หญิง อายุระว่าง 4 -5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาล 2 ปีการศึกษา 2549 ภาคเรียนที่ 2 ของโรงเรียนศรีดรุณ สังกัดสำนักงานเขตพื่นที่การศึกษาสมุทรการเขต2 จำนวน 30 คนซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
ตัวแปรที่ศึกษา
1. ตัวแปรอิสระคือ การจักประสบการณ์ดนตรีตามแนวออร์ฟ - ชูคเวิร์ค
2. ตัวแปรตามคือ ทักษะพื้นฐานทางคณิศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
เครื่องมือที่ใชในงานวิจัย
1. แผนการจัดประสบการณ์ดนตรีตามแนวออร์ฟ - ชูคเวิร์ค
2. แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
สรุปผลการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ทางดนตรีทางแนวออร์ฟ - ชูคเวิร์คมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ทั้งโดนรวมและการจัดหมวดหมู่ การรู้ค่าจำนวน 1- 10 การจำแนก เปรียนเทียบและอนุกรม สูงกว่าการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสติถิที่ระดับ .01
ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้
1. ทุกครั้งที่เริ่มกิจกรรมควรมีการทักทายทบทวนกติกาด้วยกิจกรรมที่เด็กได้อยู่นิ่งและมีสมาธิเพื่อเป็นการเตรียมในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ในช่วงแรกเด็กๆยังไม่รู้ว่าจะต้องำอะไรในกิจกรรม ควรเริ่มด้วยการฝึกให้เด็กเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน หลังจากนั้นการรับรู้และเรียนรู้ของเด็กจะดำเนินไปตามเป้าหมายของกิจกรรม
3. เนื่องจากในแต่ละกิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมย่อยต่าๆที่เชื่อมต่อกันเป็นเรื่องราว นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์และสื่อการสอนที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นให้เด็กรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
4. การเตรียมสื่อการสอนอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงเครื่องดนตรีที่ต้องใช้ในเเต่ละกิจกรรมควรเตรียมให้พร้อมใช้และจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสอดคล้องกับกิจกรรมเพื่อให้กิจกรรมดำเนินไปอย่างราบรื่นและตรงตามวัตถุประสงค์
5. อุปกรณ์ สื่อหรือเครื่องดนตรีที่เปิดโอกาสให้เด็กได้คิดประดิษฐ์ด้วยตนเองเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเรียนรู้เข้าร่วมกิจกรมและทำให้กิจกรรมนี้มีความหมายสำหรับตัวเด็กเอง